เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองและหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับวันสำคัญ ก็คือ ” อาหาร ขนม และ เครื่องดื่ม ” ชั้นเลิศ ที่ผ่านการสรรหา รังสรรค์ และ ปรุงแต่งด้วยความพิถีพิถัน เพื่อคนสำคัญในค่ำคืนพิเศษ วันนี้ Mydiningchef จึงขอนำเรื่อง อาหารในเทศกาลปีใหม่ แม้ว่าจะเป็นเทศกาลเดียวกัน แต่เป็นเรื่องราวที่น่ารู้และน่าสนใจ จากทั่วทุกมุมโลกมาฝากกันค่ะ
- ประเทศสเปน : ” Spanish Grape“
ที่เรียกว่า ” การกินองุ่น 12 ลูก ตามจังหวะนาฬิกา “
ขณะที่ชาวอเมริกันต่างพากันไปรวมตัว ที่จตุรัสไทม์ หรือที่เรียกว่า time Squre ในค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม เพื่อเพื่อเฝ้ารอลูกโปร่งที่ถูกปล่อยลอยออกมา เป็นสัญลักษณ์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เช่นเดียวกันนั้นเองชาวสเปนเฉลิมฉลองตามแบบธรรมเนียมโบราณ เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน นาฬิกาจะตี 12 ครั้ง เมื่อ นาฬิกา ตี 1 ครั้ง ชาวสเปน ก็จะทานองุ่นจำนวน 1 ผล เมื่อครบ 12 ครั้ง ถือว่า เป็นการรับประทานองุ่น ครบ 12 ผล พอดี เพราะมีความเชื่อว่า เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งดีๆ ด้วยการรับประทานองุ่นที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ในนาทีแรกของปี
2. ประเทศเนเธอแลนด์ : ” Oliebollen “
Oliebollen (ออยลีบอลเลน) ขนมโดนัทปีใหม่ของชาวดัตช์ โดนัทที่มีลักษณะแป้งชนิดเดียวกับโดนัท พร้อมลูกเกด ลูกกลมๆ ทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด โรยด้วยไอซิ่ง แตกต่างกว่าโดนัททั่วๆไป ที่ไม่มีรูตรงกลาง เป็นขนมที่ชาวดัตช์นั้น นิยมรับประทานเนื่องในวันส่งท้ายปีเก่า หรือ แม้แต่ในโอกาสพิเศษอื่นๆอีกด้วย สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก ในกรุงอัมสเตอร์ดัม มีขนมออยลีบอลเลน จำหน่ายตามร้านหรือเข็นแบบ Street Food ทานตอนร้อนๆ ช่วยคลายหนาวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
3. ประเทศ ออสเตรีย และ เยอรมัน : Glücksschwein ขนมหมูนำโชค
ค่ำคืนที่เฉลิมฉลองของวันส่งท้ายปี ที่เรียกกันว่า วัน ซิลเวสเตราเบนด์ (Sylvesterabend) หรือค่ำคืนของนักบุญซิลเวสเตอร์ นิยม รับประทาน ขนม Glücksschwein หรือ “หมูนำโชค”และเฉลิงฉลองดวยการดื่มไวน์แดงผสมอบเชยและเครื่องเทศต่างๆ แกล้มด้วยเนื้อลูกหมู นอกจากนั้นยังมีการตกแต่งบ้านเรือนและโต๊ะอาหาร ด้วยลูกหมูเล็กๆที่ทำมาจาก มาร์ซิพาน (marzipan) หรือไข่ขาว น้ำตาลและอัลมอนด์บดผสมกัน
นอกจากนี้ ในประเทศนอร์เวย์ยังมีธรรมเนียมการรับประทานโจ๊ก (Risgrot) นำข้าวไปต้มกับน้ำหรือนม ใส่ลูกเกด หรือ อบเชย บางถ้วยจะมีก้นถ้วยมีอัลมอนด์อยู่ หากใคร พบถ้วยที่มีอัลมอนด์ จะได้รับ ขนมหมูนำโชคเป็นรางวัลอีกด้วย
4. ประเทศญี่ปุ่น : Toshikoshi soba โทชิโกชิโซบะ
เวลา 24.00 น. ธรรมเนียมในศตวรรษที่ 17 เชื่อกันว่า เส้นโซบะยาวๆ มีความเชื่อในเรื่องของการมีอายุยั่งยืน และ ความมั่งคั่ง ฉะนั้น ในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าของครอบครัวชาวญี่ปุ่น นิยมรับประทานอาหารอย่างเมนู ก๋วยเตี๋ยวข้ามปี Toshikoshi Soba ที่ทำจากข้าวบัควีด (Buckwheat) และ อีกหนึ่งเมนู อย่าง Mochitsuki (โมจิซึกิ) ซึ่งก่อนถึงวันขึ้นปีใหม่ทุกคนในครอบครัวตลอดจนญาติมิตรจะผลัดกันตำข้าวเหนียวสุกในครกไม้หรือครกหินจนละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แป้งที่ตำออกมาจะมีกลิ่นหอม รสหวาน สามารถนำไปทำขนมต่างๆได้ อย่างขนม ไดฟุกุ ดังโง่ และ ขนมโมจิถือว่าเป็นขนมมงคลสำหรับวันขึ้นปีใหม่ของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย
5. ประเทศเม็กซิโก : Tamales y Menudo
Tamales (ทามาเล) ทำจาก ข้าวโพด เนื้อ ชีส และ เครื่องปรุง ห่อด้วยเปลือกข้วโพดแล้วนำไปนึ่งให้สุก เสิร์ฟ พร้อมเมนู Menudo (เมนูโด) ซุปเข้มข้นรสจัดจ้าน ชาวเม็กซิโก จะนิยมทำเมนูนี้ เนื่องในเทศกาลสำคัญอย่างวันขึ้นปีใหม่ ที่น่าสนใจกว่านั้นในเทศกาลปีใหม่ หญิงสาวชาวบ้านมารวมตัวกันทำเมนูนี้ โดยที่แต่ละคนจะทำแค่เพียงคนละหนึ่งขั้นตอนเท่านั้น และ ส่งต่อหญิงสาวคนถัดไปให้ทำในขั้นตอนถัดไป
6. Cotechino con lenticchie : ไส้กรอกหมูเศรษฐีแบบอิตาเลียน
ชาวอิตาเลียนฉลองวันส่งท้ายปีด้วยเมนู Cotechino con lenticchie ต้นกำเนิดจากตอนเหนือของอิตาลี เป็นไส้กรอกหมูเสิร์ฟ พร้อม สตูว์ถั่วเลนทิล ซึ้งกลายเป็นเมนูยอดนิยมในปัจจุบัน
ในอดีตสมัยโบราณ หมู ผู้ใดมีหรือได้รับประทานถือว่าร่ำรวย ดังนั้น แฮม เบคอน สตูว์ หรือ สเต๊ก ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ความมั่งคั่ง และ ร่ำรวย เช่นเดียวกันกับ ถั่วเลนทิลที่ชาวอิตาเลียนเห็นว่าคล้ายเหรียญกษาปณ์โรมัน เครื่องหมายของความมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์นั้นเอง
ปิดท้าย มื้ออาหารส่งท้ายปีแบบฉบับอิตาเลียนต้องจบด้วย ขนม chiacchiere เป็นแป้งทำเป็นลูกกลมๆ หรือแผ่นแบนๆ ทอดในน้ำมันให้เหลืองกรอบราดด้วยน้ำผึ้งและน้ำตาลไอซิง ซึ่งต้องดื่มโปรเซกโก (Prosecco) หรือไวน์แบบมีฟองแบบดั่งเดิมของอิตาลี
7. Kransekage : เค้กหอคอย 18 ชั้นแห่งเดนมาร์ก
ขนมที่นิยมในเดนมาร์ก และ นอร์เวย์ ใช้ในหลายเทศกาลและวาระโอกาส งานแต่งงาน หรือ วันคริสต์มาส กษณะเค้ก ทำมาจาก มาร์ซิพาน รูปวงแหวนวางเค้กซ้อนๆกัน โดยใช้ขวดไวน์หรือขวดเหล้าหมักมันฝรั่งเป็นแกนกลาง ตกแต่งด้วยไอซิ่ง ธงชาติ หรือ แครกเกอร์ ความหมายของขนมชนิดนี้หมายถึงความอุดมสมบูรณ์
หากคุณต้องการรับประทานอาหารหลากหลายประเทศสามารถระบุให้เชฟของเราได้รังสรรค์อาหารให้แก่คุณ หรือสอบถามได้ที่ https://mydiningchef.com/main/course-menu/
#BeyondChefs#mydiningchef#Privatechef#Cheftable#Chefathome#tabledecoration #privatechefinbangkok